จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของการแต่งหน้า

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของการแต่งหน้า

1.รองพื้นสีไม่เข้ากับผิวหน้า


ไม่ ว่าสีของรองพื้นจะเข้มเกินไปหรืออ่อนเกินไป เมื่อใช้แล้วจะไม่ทำให้ผิวเป็นไปตามธรรมชาติ มองดูเหมือนสวมหน้ากาก ดังนั้นวิธีการเช็คสีของรองพื้นมีข้อแนะนำว่า ควรเช็คกับสีผิว โดยเช็คกับปลายคาง ทางบ่างๆ จะมองดูความกลมกลืนได้สมจริวกว่า เพราะทาที่หลังมือจะได้โทนสีที่ต่างไป ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกสีเครื่องสำอางที่จะใช้ในเวลากลางวัน ซึ่งดีกว่าเลือกสีภายใต้แสงนีออน


วิธีทดลองว่ารองพื้นใช้ได้ดีกับสี ผิวหรือไม่ให้ใช้ฟองน้ำชื้นๆ ช่วยเพราะจะทำให้ติดทนเนียน การทารองพื้นตรงบริเวณที่คางกับที่คอจะต้องให้มองดูเป็นสีเดียวกัน จึงจะดูไม่หลอกตา
2.การใช้แป้งแข็งมากเกินไป

แป้ง แข็งจะช่วยให้รองพื้นเรียบและสวยงาม ติดทนอยู่บนใบหน้า แต่ถ้าใช้มากเกินไปจะมองดูผิวหน้าหนา วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ผิวหน้ากลมกลืนให้ใช้แปรงปัดแก้มขนาดใหญ่ เมื่อใช้พัฟฟ์หรือสำลีกลมๆ แตะแป้งแข็งทาหน้า แล้วทิ้งไว้
2-3 นาที ใช้แปรงอันใหญ่ปัดส่วนเกินออก จึงจะทำให้ผิวหน้านวลเนียน
 3.การใช้ครีมปกปิดบนใบหน้า

การ ใช้ครีมปกปิดริ้วรอย ตามรอยตีนตา ต้องใช้อย่างระมัดระวัง อย่าให้เป็นวงดำ และระวังอย่าใช้ครีมสีอ่อนกว่าผิว จากนั้นจะต้องทาเกลื่อนให้เนียน ถ้าไม่ทำเช่นนี้จะทำให้บริเวณรอยที่ต้องการปกปิด จะกลายเป็นจุดดึงดูดสายตาของผู้มอง

4.การพรางจุดที่บกพร่องบนใบหน้า


จาก ศิลปะการแต่งหน้าสามารถแต่งหน้าให้ดูกรามเล็กลง มองดูจมูกโด่ง มองดูหน้าผากแคบเข้า ใช้วิธีแรเงาด้วยแป้งแข็ง หรือรองพื้นที่สีเข้มกว่าผิว
  แต่ต้องระวังไม่ให้เข้มจนเกินไป ควรเลือกสีที่เข้มกว่าให้เหมาะสม และวิธีที่ดีที่สุดในการเลือกสีเปรียบเทียบควรเลือกในเวลากลางวันดีกว่าเวลา กลางคืน

5.การใช้แปรงปัดแก้ม


ใช้ แปรงแต้มรูจปัดแก้มเล็กน้อย จะทำให้มองดูผิวพรรณมีสุขภาพดี เพิ่มความสดใสมีชีวิตชีวา แต่ถ้ามากไปจะมองดูเวอร์เกินไป เลือกใช้แปรงปัดแก้ม แต้มรูจที่มีสีเหมาะกับผิว รูจสีกุหลาบใช้สำหรับผิวขาวซีด สีชมพูสำหรับคนที่มีผิวปานกลาง และสีน้ำตาลอมทอง สำหรับผู้ที่มีผิวสีเข้ม ใช้ส่วนที่กว้างที่สุดของแปรงทาแก้มปาดแปรงไปตามโหนกแก้มจนถึงขมับ ปัดให้บางเบาระวังอย่าให้เป็นเส้นเป็นใช้ได้


http://www.handbtoday.com/images/1194880495/B5.jpg
6.ก่อนทาริมฝีปากด้วยลิปสติค ควรจะใช้ดินสอเขียนขอบปาก


เพื่อ ริมฝีปากที่ได้รูป และกันไม่ให้ลิปสติคเปรอะออกมานอกขอบปาก ควรใช้ดินสอเขียนปากเสียก่อน เส้นรอบปากที่ได้รูปจะช่วยเน้นให้มองเห็นริมฝีปากที่สวยได้รูป จุดหลักที่จะให้เส้นขอบปากเข้ากับลิปสติคที่ทา ควรทาลิปสติคอย่างเบามือ หรือใช้พู่กันทาลิปสติกทาลงบนริมฝีปาก ทำให้ลิปสติกสม่ำเสมอ เลือกดินสอวาดขอบปากที่สีใกล้เคียงกับสีปากโดยธรรมชาติที่สุด

7.การแต่งหน้าที่สีไม่เข้ากับผิวหน้าจะทำให้มองดูไม่สวย

 การ เมคอัพแก้มและปากสีจะต้องกลมกลืนไปในโทนเดียวกัน เช่นจะไม่ใช้ลิปสติคสีแดง และใช้รูจทาแก้มสีแดงอมส้ม ไม่ควรแต่งหน้าให้ส่วนหนึ่งส่วนใดมองดูเด่นกว่าส่วนอื่น ถ้าทาตามากเกินไปจะทำให้จุดสนใจอยู่ที่ตา ไม่ใช้ที่แก้มและริมฝีปาก



http://www.handbtoday.com/images/1194880495/B7.jpg
8.การโรยกากเพชร


การ แต่งหน้าแบบโรยกากเพชรจะทำให้ใบหน้ากระด้างดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจะเน้นให้มองเห็นจุดบกพร่องบนใบหน้า การโรยกากเพชรที่ตา โหนกแก้ม ริมฝีปากที่ทาลิปสติคแล้ว จะทำให้มองดูใบหน้าเวอร์เกินไป แต่ถ้าต้องการให้หน้ามีแสงวูบวาบ ก็ให้ใช้กากเพชรโรยใต้คิ้ว จะทำให้หนังตามีประกายสดใสช่วยดึงดูดให้มีผู้มองดูอย่างเหลียวหลัง

9.ทาอายแชโดว์อ่อนเกินไปหรือเข้มเกินไป


การ ทาอายแชโดว์เป็นการเน้นดวงตา ถ้าทาหนักมือหรือใช้สีที่เข้มเกินไป จะทำให้มองดูตาแห้งแล้ง ในขณะที่แต่งดวงตาจะเริ่มที่จุดกึ่งกลางตา สำหรับเวลากลางวันควรใช้สีประกอบด้วยโทน
3 สี คือสีน้ำตาลเข้ม สีสนิมเหล็ก และสีเบจ ปัดส่วนที่เข้มที่สุดไปตามรูปตา แล้วไฮไลท์เปลือกตาด้วยสีที่อ่อนที่สุบริเวณใต้คิ้ว



http://www.handbtoday.com/images/1194880495/B8.jpg
10.ทาเส้นขอบตาหนา ดำเกินไป


การ ทาขอบตาด้วยสีเข้มหนาหนักเกินไป ไม่เหมาะสำหรับเวลากลางวัน ถ้าใช้ชนิดน้ำควรเปลี่ยนมาใช้เป็นแบบดินสอเขียนที่นุ่มๆ หรือไม่ก็เป็นดินสอเขียนขอบตาสีน้ำตาล เทา หรือเลือกสีที่เข้ากับสีทาตา เช่น น้ำเงิน-เทา พลัม เขียว วาดเส้นขอบตาบนจากขอบตาด้านในออกมาข้างนอก และวาดเส้นขอบตาล่างจากกึ่งกลางตาออกมาแล้วปัดให้มองดูกลมกลืนกันด้วยคัดตอน บัด

11.การใช้มาสคาร่า


การ แต่งหน้าที่มองดูมากเกินไปอยู่ที่การใช้มาสคาร่า มาสคาร่าที่ทาหนาๆ บนขอบตาจะช่วยเน้นให้มองเห็นจุดเด่น ให้ใช้มาสคาร่าตอนล่างหรือบนขอบตาเท่านั้น แล้วใช้แปรงเบาๆปัดขนตาอีกนิดหน่อย เท่านี้พอแล้ว ถ้าทามากจะดูเหมือนตาถลนกลายเป็นไม่สวย ควรเริ่มแต่งแต้มแต่เพียงเบาๆ ก่อน จนแน่ใจว่าทาแล้วสวยจึงจะบรรจงใช้ให้ถูกใจ


12.วิธีทดสอบผิวหน้า

 วิธี การทอสอบผิวหน้าว่าจะเหมาะกับสีผิวของบลัชออนทำได้ดังนี้ ใช้กระดาษขาว 1 แผ่น วางแตะไว้ใต้คาง แล้วส่องกระจกโดยใช้แสงธรรมชาติ หรือแสงแดดดูรอยที่สะท้อนลงบนแผ่นกระดาษแล้วพิจารณาเงาที่เกิดขึ้นดังต่อไป นี้
 -ถ้าเงาสะท้อนเป็นสีเบจ เป็นสีเทาแกมแดง หรือสีเหมือนทราย แสดงว่าผิวหน้ามีสีขาว ให้ใช้แป้งฝุ่นสีแดงปนเหลือง หรือสีดินที่ออกม่วง
 -ถ้าเงาสะท้อนเป็นสีเหลืองแสดงว่า เรามีผิวขาวซีด ให้ใช้แป้งฝุ่นสีแดงปนเหลือง ที่อ่อนกว่าผู้มีผิวสีขาว หรือสีกุหลาบชมพูอมม่วง
 -ถ้าเงาออกสีแดงเรื่อๆ แสดงว่าผิวหน้าออกแดง ให้ใช้สีบรอนซ์ หรือสีออกแดง สีเหลืองปนแดง หรือสีอิฐออกแดงหรือแดงแสด
 -ถ้าเงาสะท้อนออกเป็นสีเขียวให้ใช้สีชมพูเข้มหรือสีแดงสด

-ถ้าผิวหน้าค่อนข้างคล้ำควรใช้แป้งฝุ่นสีแดงแก่หรือแดงผสมสีน้ำตาลไหม้

ความรู้เรื่องการเลือกโทนสี


สีสัน คือสิ่งปรากฎชัดที่สุดบนใบหน้า และคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งของสี คือสามารถก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างแก่ผู้มองเห็นได้


-สีแดง
หมายถึง มีเสน่ห์ ร้อนแรง โดดเด่น

-สีชมพู
หมายถึง นุ่มนวล อ่อนหวาน

-สีส้ม
หมายถึง มีชีวิตชีวา เร่งเร้า กระตือรือร้น

-สีเหลือง
หมายถึง ร่าเริง เบิกบาน

-สีเขียว
หมายถึง สดชื่น สงบ เยือกเย็น

-สีฟ้า
หมายถึง สดใส ผ่อนคลาย

-สีน้ำเงิน
หมายถึง ภูมิฐาน สง่างาม

-สีม่วง
หมายถึง  ดึงดูดใจ ลึกลับ หรูหรา

-สีน้ำตาล
หมายถึง  อบอุ่น สุขุม เรียบง่าย

การ เลือกใช้โทนสีไม่มีหลักเคร่งครัดให้ต้องยึดถือปฏิบัติ เช่นการแต่งหน้าแบบอ่อนหวาน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แต่สีชมพูสีเดียว หรือแบบสง่างามก็ไม่จำเป็นต้องใช้สีน้ำเงินเท่านั้น เพียงแต่นำโทนสีที่บอกอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง และสถานการณ์เท่านั้นก็พอ


ยกเว้นการแต่งหน้าแบบสมาร์ทที่น่าจะกำหนดไว้ให้แต่งด้วยนกลุ่มสีเอิร์ธโทน อันมีสีน้ำตาลเป็นสีพื้นหลัก จึงจะเหมาะสมที่สุด

แต่งหน้าโทนร้อน-โทนเย็น

 
-โทนร้อน
หมายถึงสีที่มีพื้นสีเหลืองผสมอยู่เป็นหลัก เช่นสีส้ม สีน้ำตาล สีแดงที่ใกล้เคียงมาทางส้ม


-โทนเย็น
หมายถึงสีทีมีพื้นสีเป็นสีน้ำเงิน เช่น สีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีม่วง สีแดงที่ใกล้เคียงมาทางม่วง เป็นต้น
ใน ความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า หากแต่งหน้าโทนร้อนก็ต้องแต่งโทนร้อนทั้งหน้า หรือหากแต่งโทนเย็นก็ต้องเย็นให้หมดทุกส่วน แต่อันที่จริงไม่จำเป็นเลย การแต่งตาโทนร้อนนั้นใช้ได้กับคนไทยทุกคนอยู่แล้ว เพราะเราใช้สีน้ำตาลช่วยในการเฉดดิ้งและแก้ไขรูปตาให้มีมิติ


จาก นั้นจะทาปากโทนร้อนหรือเย็นก็ได้ทั้งนั้น หรือแม้จะแต่งตาด้วยสีโทนเย็นเราก็ยังต้องมีโทนร้อน คือสีน้ำตาลแก้ไขรูปตาไว้ก่อนอยู่แล้ว


ฉะนั้นจะทาปากโทนเย็นหรือร้อน ก็ยังไปด้วยกันได้เหมือนเดิม สรุปแล้วคือ จะเป็นสีโทนร้อนหรือโทนเย็น ไม่น่าจะเป็นเงื่อนไขให้ต้องคำนึงถึงในการแต่งหน้า

   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น